ชาร์จ iPhone ของคุณแบบเร็ว

ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการในการชาร์จ iPhone ของคุณแบบเร็ว

สิ่งที่ต้องมี

คุณสามารถชาร์จ iPhone 8 หรือใหม่กว่าให้มีระดับแบตเตอรี่สูงสุดถึง 50% ภายในเวลาประมาณ 30 นาที ค้นหาข้อมูลการทดสอบสำหรับ iPhone รุ่นต่างๆ

ในการชาร์จเร็ว คุณจะต้องใช้ iPhone 16 หรือใหม่กว่าที่มีสาย USB-C เช่นเดียวกับสายที่มาพร้อมกับกล่อง หรือ iPhone รุ่นก่อนหน้าที่มีสาย USB-C เป็น Lightning และหนึ่งในอะแดปเตอร์ต่อไปนี้:

• อะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ขนาด 18 วัตต์* หรือใหญ่กว่าของ Apple

• อะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ของบริษัทอื่นที่เทียบเท่ากันซึ่งรองรับการจ่ายไฟผ่าน USB (USB-PD)

หากต้องการชาร์จแบบไร้สายอย่างรวดเร็ว คุณต้องมี iPhone 16 หรือใหม่กว่าที่มีที่ชาร์จ MagSafe และหนึ่งในอะแดปเตอร์ต่อไปนี้:

• อะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ขนาด 30 วัตต์ หรือใหญ่กว่าของ Apple

• อะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ของบริษัทอื่นที่เทียบเท่ากันซึ่งรองรับการจ่ายไฟผ่าน USB (USB-PD)

สําหรับ iPhone 15 และรุ่นก่อนหน้า คุณสามารถชาร์จเร็วได้สูงสุด 15 วัตต์ด้วยที่ชาร์จ MagSafe และหนึ่งในอะแดปเตอร์ต่อไปนี้:

• อะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ขนาด 20 วัตต์ของ Apple

• อะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ของบริษัทอื่นที่เทียบเท่ากันซึ่งรองรับการจ่ายไฟผ่าน USB (USB-PD)

การชาร์จเร็วอาจใช้การไม่ได้ในสภาวะที่เย็นหรือร้อนเกินไป

หากคุณไม่แน่ใจว่าคุณมีอะแดปเตอร์แปลงไฟของ Apple รุ่นใด ให้ตรวจสอบกำลังวัตต์ได้ที่ด้านบนหรือด้านล่างของอะแดปเตอร์ ดังนี้

ข้อมูลการทดสอบการชาร์จ iPhone

• Apple ทําการทดสอบในเดือนสิงหาคม 2024 โดยใช้เครื่อง iPhone 16, iPhone 16 Plus, iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max รุ่นก่อนการผลิตจริงพร้อมซอฟต์แวร์, สายชาร์จ USB-C พร้อมอะแดปเตอร์แปลงไฟ Apple USB-C (ขนาด 20 วัตต์ รุ่น A2305) และที่ชาร์จ Apple MagSafe (รุ่น A2580 ขนาด 1 เมตร และ 2 เมตร รุ่น A3250) พร้อมอะแดปเตอร์แปลงไฟ Apple USB-C (ขนาด 30 วัตต์ รุ่น A2164) การทดสอบการชาร์จแบบเร็วดำเนินการโดยใช้เครื่อง iPhone ที่แบตเตอรี่หมด จํานวนครั้งวัดจากการปรากฎของโลโก้ Apple เมื่อเครื่องเริ่มต้นระบบ ระยะเวลาการชาร์จแตกต่างกันไปตามการตั้งค่าและปัจจัยทางด้านสภาพแวดล้อม ผลลัพธ์จริงที่ได้จึงแตกต่างกันออกไป

• Apple ทำการทดสอบในเดือนสิงหาคม 2023 โดยใช้เครื่อง iPhone 15, iPhone 15 Plus, iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max รุ่นก่อนการผลิตจริงพร้อมซอฟต์แวร์และอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ของ Apple ที่เป็นอุปกรณ์เสริม (ขนาด 20 วัตต์ รุ่น A2305) การทดสอบการชาร์จแบบเร็วดำเนินการโดยใช้เครื่อง iPhone ที่แบตเตอรี่หมด ระยะเวลาการชาร์จแตกต่างกันไปตามการตั้งค่าและปัจจัยทางด้านสภาพแวดล้อม ผลลัพธ์จริงที่ได้จึงแตกต่างกันออกไป

• Apple ทำการทดสอบในเดือนสิงหาคม 2022 โดยใช้เครื่อง iPhone 14, iPhone 14 Plus, iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max รุ่นก่อนการผลิตจริงพร้อมซอฟต์แวร์และอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ของ Apple ที่เป็นอุปกรณ์เสริม (ขนาด 20 วัตต์ รุ่น A2305) การทดสอบการชาร์จแบบเร็วดำเนินการโดยใช้เครื่อง iPhone ที่แบตเตอรี่หมด ระยะเวลาการชาร์จแตกต่างกันไปตามการตั้งค่าและปัจจัยทางด้านสภาพแวดล้อม ผลลัพธ์จริงที่ได้จึงแตกต่างกันออกไป

• Apple ทำการทดสอบในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดยใช้เครื่อง iPhone SE (รุ่นที่ 3) รุ่นก่อนการผลิตจริงพร้อมซอฟต์แวร์และอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ของ Apple ที่เป็นอุปกรณ์เสริม (ขนาด 20 วัตต์ A2305)

• Apple ทำการทดสอบในเดือนสิงหาคม 2021 โดยใช้เครื่อง iPhone 13 mini, iPhone 13, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max รุ่นก่อนการผลิตจริงพร้อมซอฟต์แวร์และอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ของ Apple ที่เป็นอุปกรณ์เสริม (ขนาด 20 วัตต์ รุ่น A2305)

• Apple ทำการทดสอบในเดือนกันยายน 2020 โดยใช้เครื่อง iPhone 12, iPhone 12 mini, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max รุ่นก่อนการผลิตจริงพร้อมซอฟต์แวร์และ USB-C Power Adapter ของ Apple ที่เป็นอุปกรณ์เสริม (ขนาด 20 วัตต์ รุ่น A2305) การทดสอบการชาร์จแบบเร็วดำเนินการโดยใช้เครื่อง iPhone ที่แบตเตอรี่หมด ระยะเวลาการชาร์จแตกต่างกันไปตามปัจจัยทางด้านสภาพแวดล้อม ผลลัพธ์จริงที่ได้จึงแตกต่างกันออกไป

• Apple ทำการทดสอบในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 โดยใช้เครื่อง iPhone SE (รุ่นที่ 2) รุ่นก่อนการผลิตจริงพร้อมซอฟต์แวร์และอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ของ Apple (ขนาด 18 วัตต์ รุ่น A1720 และขนาด 30 วัตต์ รุ่น A1882)

• Apple ทำการทดสอบในเดือนสิงหาคม 2019 โดยใช้เครื่อง iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max รุ่นก่อนการผลิตจริงพร้อมซอฟต์แวร์และอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ของ Apple (ขนาด 18 วัตต์ รุ่น A1720, ขนาด 29 วัตต์ รุ่น A1540, ขนาด 30 วัตต์ รุ่น A1882, ขนาด 61 วัตต์ รุ่น A1947 และขนาด 87 วัตต์ รุ่น A1719)

• Apple ทำการทดสอบในเดือนสิงหาคม 2017 โดยใช้เครื่อง iPhone X, iPhone 8 และ iPhone 8 Plus รุ่นก่อนการผลิตจริงพร้อมซอฟต์แวร์ และในเดือนสิงหาคม 2018 โดยใช้เครื่อง iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR รุ่นก่อนการผลิตจริงพร้อมซอฟต์แวร์และอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ของ Apple (ขนาด 18 วัตต์ รุ่น A1720, ขนาด 29 วัตต์ รุ่น A1540, ขนาด 30 วัตต์ รุ่น A1882, ขนาด 61 วัตต์ รุ่น A1718 และขนาด 87 วัตต์ รุ่น A1719)