วิธีใช้ที่ชาร์จ MagSafe กับ iPhone

iPhone 16, iPhone 15, iPhone 14, iPhone 13 หรือ iPhone 12 รุ่นต่างๆ สามารถชาร์จโดยใช้ที่ชาร์จ MagSafe ได้

เตรียมการใช้งานที่ชาร์จ MagSafe ของคุณ

1. เสียบขั้วต่อ USB-C ของที่ชาร์จ MagSafe เข้ากับอะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ของ Apple ที่มีกำลังไฟ 20 วัตต์ (W) ขึ้นไปที่แนะนำ หรืออะแดปเตอร์แบบ USB-C ของบริษัทอื่นที่ใช้งานร่วมกันได้ คุณสามารถต่อกับพอร์ต USB-C ใน Mac หรือ PC ได้เช่นกัน

2. วางที่ชาร์จ MagSafe ให้หงายขึ้นดังภาพ โดยวางบนพื้นราบที่ไม่มีวัตถุโลหะหรือสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ อยู่

3. วาง iPhone ของคุณบนที่ชาร์จ MagSafe

ชาร์จแบบไร้สายสูงสุด 25 วัตต์ ได้เร็วขึ้น

ที่ชาร์จ MagSafe ออกแบบมาให้ชาร์จ iPhone แบบไร้สายได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ระบบจะปรับให้รับกับสภาวะอย่างชาญฉลาดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาร์จ iPhone โดยให้กำลังไฟสูงสุด 25 วัตต์ เพื่อการชาร์จแบบไร้สายที่เร็วยิ่งขึ้น กำลังไฟที่จ่ายจริงไปยัง iPhone จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่น iPhone, กำลังวัตต์ของอะแดปเตอร์แปลงไฟ และสภาวะของระบบ

สำคัญมากที่ต้องเสียบที่ชาร์จเข้ากับแหล่งจ่ายไฟก่อนวาง iPhone บนที่ชาร์จ MagSafe เพราะจะช่วยให้ MagSafe ตรวจสอบยืนยันได้ว่าจะสามารถจ่ายกำลังไฟอย่างเต็มขีดความสามารถได้อย่างปลอดภัย หากคุณวาง iPhone บนที่ชาร์จ MagSafe ก่อนที่จะเสียบเข้ากับแหล่งจ่ายไฟ ให้นำ iPhone ของคุณออกจากที่ชาร์จ MagSafe แล้วรอสามวินาที จากนั้นวางเครื่องกลับลงบนที่ชาร์จเพื่อรับกำลังไฟอย่างเต็มขีดความสามารถต่อไป

อะแดปเตอร์แปลงไฟทั้งหมดมีพิกัดปริมาณและอัตราการจ่ายกำลังไฟที่แตกต่างกันไป ที่ชาร์จ MagSafe ต้องใช้พิกัดกำลังต่อไปนี้เพื่อมอบการชาร์จแบบไร้สายที่รวดเร็ว

อะแดปเตอร์แปลงไฟที่ใช้งานร่วมกันได้และ iPhone รุ่นต่างๆ เพื่อการชาร์จแบบไร้สายสูงสุด 25 วัตต์ที่เร็วขึ้น

• iPhone 16 Plus และ iPhone 16 Pro Max

• อะแดปเตอร์แปลงไฟที่มีกำลังไฟ 30 วัตต์ขึ้นไป

• อะแดปเตอร์แปลงไฟ 15V/2.0A หรือสูงกว่า

• ที่ชาร์จ MagSafe ที่ระบุไว้บนอุปกรณ์หรือสายว่าเป็นหมายเลขชิ้นส่วน A2580 หรือ A3250

• อะแดปเตอร์ที่มีกำลังวัตต์ระดับ 15V/2.0A หรือสูงกว่า จะสามารถจ่ายกำลังไฟให้ iPhone ได้สูงสุด 25 วัตต์ด้วยเช่นกัน

iPhone 16 และ iPhone 16 Pro จะรับกำลังไฟได้สูงสุด 22.5 วัตต์

อะแดปเตอร์แปลงไฟที่ใช้งานร่วมกันได้เพื่อการชาร์จแบบไร้สายสูงสุด 15W ที่เร็วขึ้น

• iPhone 15 และก่อนหน้า

• อะแดปเตอร์แปลงไฟแบบ USB-C ที่มีกำลังไฟ 20 วัตต์ขึ้นไป

• 9V/2.22A หรือ 9V/2.56A or higher power adapter

• iPhone 13 mini และ iPhone 12 mini สามารถชาร์จแบบไร้สายสูงสุด 12 วัตต์ได้เร็วขึ้นเมื่อมีพิกัดกำลังอย่างน้อย 9V/2.03A

• อะแดปเตอร์ที่มีกำลังวัตต์ที่หรือสูงกว่า 9V/2.56A จะสามารถจ่ายกำลังไฟให้ iPhone ได้สูงสุด 15 วัตต์ด้วยเช่นกัน*

สำหรับ iPhone 13 mini และ iPhone 12 mini ที่ชาร์จ MagSafe จะสามารถจ่ายกำลังไฟได้สูงสุด 12 วัตต์ เมื่อเครื่องเชื่อมต่ออยู่กับอุปกรณ์เสริม Lightning อย่างเช่นหูฟัง ระบบจะจำกัดการชาร์จให้ไม่เกิน 7.5W เพื่อให้สอดรับกับมาตรฐานการกำกับดูแล

เรียนรู้เพิ่มเติม

• ที่ชาร์จ MagSafe ของคุณออกแบบมาให้ชาร์จได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพที่สุดกับรุ่น iPhone 16, iPhone 15, iPhone 14, iPhone 13, iPhone 12 และอุปกรณ์เสริม MagSafe ของ Apple

• เมื่อนำอุปกรณ์ที่รองรับ Qi ซึ่งไม่ใช่ MagSafe มาชาร์จกับที่ชาร์จ MagSafe กำลังไฟจะลดลงและระยะเวลาในการชาร์จอาจนานกว่าที่ชาร์จ Qi ทั่วไป

• อย่าวางบัตรเครดิต บัตรรักษาความปลอดภัย หนังสือเดินทาง และกุญแจรีโมตคั่นระหว่าง iPhone กับที่ชาร์จ MagSafe เพราะอาจทำให้แถบแม่เหล็กหรือชิป RFID ในสิ่งของเหล่านี้เสียหายได้

• หากคุณใช้เคสที่มีที่เก็บสิ่งที่ไวต่อสนามแม่เหล็กเหล่านี้ ให้นำออกก่อนที่จะชาร์จ หรือตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งเหล่านี้คั่นอยู่ระหว่างด้านหลังของอุปกรณ์กับที่ชาร์จ

• หาก iPhone ของคุณต่ออยู่กับทั้งที่ชาร์จ MagSafe และแหล่งจ่ายไฟผ่าน Lightning หรือช่องต่อ USB-C iPhone ของคุณจะชาร์จผ่านช่องต่อ

• เช่นเดียวกับที่ชาร์จแบบไร้สายอื่นๆ iPhone หรือที่ชาร์จ MagSafe อาจอุ่นขึ้นเล็กน้อยระหว่างที่ iPhone ของคุณชาร์จอยู่ หากแบตเตอรี่อุ่นเกินไป ซอฟต์แวร์อาจจำกัดการชาร์จไว้ไม่เกิน 80 เปอร์เซ็นต์ เพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ของคุณ

• หาก iPhone ของคุณสวมเคสหนังขณะชาร์จอยู่บนที่ชาร์จ MagSafe เคสอาจมีรอยประทับเป็นวงกลมจากการกดทับของหนัง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากคุณรู้สึกกังวล เราขอแนะนำให้ใช้เคสที่ไม่ได้ทำจากหนัง

• ดูวิธีทำความสะอาดที่ชาร์จ MagSafe

• ดูข้อมูลเกี่ยวกับแม่เหล็กในผลิตภัณฑ์ MagSafe

• เมื่อใช้ iPhone 15 และใหม่กว่า หากคุณอยู่ในสหภาพยุโรปหรือในประเทศหรือภูมิภาคที่เป็นส่วนหนึ่งของสมาคมการค้าเสรียุโรป คุณจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อคุณใช้ที่ชาร์จแบบไร้สายครั้งแรก ตามที่กำหนดโดยสหภาพยุโรป การแจ้งเตือนจะระบุว่าการชาร์จแบบไร้สายอาจใช้พลังงานมากกว่าการชาร์จแบบใช้สาย

• การชาร์จแบบไร้สาย MagSafe ของ Apple มีการจัดวางตําแหน่งแม่เหล็กที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ชาร์จได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การชาร์จแบบไร้สาย MagSafe มีเทคโนโลยีที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงาน เมื่อเทียบกับวิธีการชาร์จแบบไร้สายอื่นๆ ดูข้อมูลเกี่ยวกับการชาร์จด้วยที่ชาร์จ MagSafe Duo