การใช้สื่อ HEIF หรือ HEVC บนอุปกรณ์ Apple

อัปเกรดเป็น iOS 11 หรือใหม่กว่า หรือ macOS High Sierra หรือใหม่กว่าเพื่อดู แก้ไข หรือทำสำเนาสื่อ HEIF หรือ HEVC ที่บันทึกด้วย iPhone หรือ iPad

iOS 11 และ macOS High Sierra เป็นเวอร์ชั่นแรกที่มีการรองรับสำหรับรูปแบบสื่อที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมใหม่ดังต่อไปนี้

• HEIF (High Efficiency Image File Format) สำหรับรูปภาพ

• HEVC (High Efficiency Video Coding) หรือที่เรียกว่า H.265 สำหรับวิดีโอ

HEIF และ HEVC ให้การบีบอัดที่ดีกว่า JPEG และ H.264 จึงใช้พื้นที่จัดเก็บบนอุปกรณ์และรูปภาพ iCloud น้อยกว่า ขณะที่คงคุณภาพของภาพในระดับเท่ากัน

การบันทึกสื่อ

เมื่อใช้ iOS 11 หรือใหม่กว่า, iPadOS หรือ visionOS อุปกรณ์ต่อไปนี้จะสามารถบันทึกสื่อในรูปแบบ HEIF หรือ HEVC ได้ อุปกรณ์อื่นๆ สามารถดู แก้ไข หรือทำสำเนาสื่อประเภทนี้ได้โดยมีข้อจำกัด หากใช้ iOS 11 หรือใหม่กว่า, iPadOS, visionOS หรือ macOS High Sierra หรือใหม่กว่า

• iPhone 7 หรือ iPhone 7 Plus หรือใหม่กว่า

• iPad (รุ่นที่ 6) หรือใหม่กว่า

• iPad Air (รุ่นที่ 3) หรือใหม่กว่า

• iPad mini (รุ่นที่ 5) หรือใหม่กว่า

• iPad Pro (10.5 นิ้ว), iPad Pro (11 นิ้ว) และ iPad Pro 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 2) หรือใหม่กว่า

• Apple Vision Pro

แม้ว่าเราจะแนะนำให้บันทึกในรูปแบบ HEIF และ HEVC แต่คุณก็สามารถตั้งค่าให้อุปกรณ์เหล่านี้บันทึกสื่อโดยใช้รูปแบบที่เดิมซึ่งใช้ได้กับระบบปฏิบัติการและอุปกรณ์อื่นๆ ในจำนวนมากกว่า โดยทำดังนี้

1. ไปที่การตั้งค่า > กล้อง

2. แตะรูปแบบ

3. แตะเข้ากันได้มากที่สุด การตั้งค่านี้มีเฉพาะในอุปกรณ์ที่สามารถบันทึกสื่อในรูปแบบ HEIF หรือ HEVC และเมื่อใช้ iOS 11 หรือใหม่กว่า หรือ iPadOS เท่านั้น

4. รูปภาพและวิดีโอใหม่ทั้งหมดจะใช้รูปแบบ JPEG หรือ H.264 หากต้องการกลับไปใช้รูปแบบ HEIF และ HEVC ที่ประหยัดพื้นที่ ให้เลือก ประสิทธิภาพสูง

การทำงานกับสื่อนี้

การรองรับ HEIF และ HEVC มีอยู่ในตัว iOS 11 และใหม่กว่า, iPadOS, visionOS และ macOS High Sierra และใหม่กว่า ซึ่งคุณสามารถดู แก้ไข หรือทำสำเนาสื่อประเภทนี้ในแอปที่รองรับคุณสมบัตินี้

ในอุปกรณ์รุ่นที่เก่ากว่าบางรุ่น ความละเอียดและอัตราเฟรม (fps) ของวิดีโอยังมีผลกับการรองรับ HEVC ดังนี้ ความละเอียด 1080p หรือต่ำกว่า และอัตราเฟรมที่ 60 fps หรือต่ำกว่า สามารถใช้กับอุปกรณ์รุ่นที่เก่ากว่าได้มากกว่า หากต้องการลดความละเอียดและอัตราเฟรมที่ iPhone หรือ iPad ที่ใช้ร่วมกันได้ใช้ในการบันทึกวิดีโอ ให้ไปที่การตั้งค่า > กล้อง > บันทึกวิดีโอ รวมถึงการตั้งค่า > กล้อง > บันทึกสโลว์โมชั่น

หากคุณใช้รูปภาพ iCloud กับ iOS 10 หรือ macOS Sierra คุณอาจเห็นไอคอนคำเตือน ที่มุมขวาบนของรูปภาพหรือวิดีโอ หรือคุณอาจเห็นข้อความเตือน หากต้องการดู แก้ไข หรือทำสำเนาสื่อ HEIF และ HEVC บนอุปกรณ์ของคุณได้อย่างเต็มที่ ให้อัปเกรดเป็น iOS 11 หรือใหม่กว่า หรือ macOS High Sierra หรือใหม่กว่า

การแชร์และการแปลงสื่อนี้

หากแชร์สื่อนี้ผ่านทางรูปภาพ iCloud สื่อจะได้รับการเก็บรักษาในรูปแบบ ความละเอียด และอัตราเฟรมดั้งเดิม หากอุปกรณ์ของคุณไม่สามารถดู แก้ไข หรือทำสำเนาสื่อ HEIF หรือ HEVC ได้อย่างเต็มที่ในรูปภาพ iCloud หรือแสดงในความละเอียดที่ต่ำกว่า ให้อัปเกรดเป็น iOS 11 หรือใหม่กว่า หรือ macOS High Sierra หรือใหม่กว่า

หากแชร์สื่อนี้โดยใช้วิธีอื่น เช่น AirDrop ข้อความ หรืออีเมล สื่อนั้นอาจได้รับการแชร์ในรูปแบบที่เข้ากันได้มากกว่า เช่น JPEG หรือ H.264 ขึ้นอยู่กับว่าอุปกรณ์ที่รับสื่อรองรับรองรับรูปแบบสื่อที่ใหม่กว่าหรือไม่

หากต้องการแปลงสื่อ HEIF และ HEVC ด้วยตนเอง ให้ส่งออกสื่อนั้นเป็นรูปแบบอื่นจากแอปของ Apple หรือแอปของบริษัทอื่น ตัวอย่างเช่น

• หากคุณเปิดรูปภาพ HEIF ในแอปรูปภาพหรือแสดงตัวอย่างบน Mac ให้เลือกไฟล์ > ส่งออก แล้วเลือกรูปแบบ เช่น JPEG หรือ PNG ก่อนที่จะบันทึก

• หากคุณเปิดวิดีโอ HEVC ใน QuickTime Player บน Mac ให้เลือกไฟล์ > ส่งออกเป็น ในกล่องโต้ตอบที่เปิดขึ้น ให้ใช้เมนูป๊อปอัพเพื่อเปลี่ยนจากไฟล์ขนาดเล็กลง (HEVC) เป็นความเข้ากันได้มากกว่า (H.264) ก่อนที่คุณจะคลิกบันทึก หากคุณเห็นกล่องกาเครื่องหมาย HEVC แทนที่จะเห็นเมนูป๊อปอัพ ให้ยกเลิกการเลือกกล่องกาเครื่องหมายก่อนบันทึก

การนำเข้าสื่อประเภทนี้ผ่าน USB

เมื่อคุณนำเข้าสื่อ HEIF หรือ HEVC จาก iPhone หรือ iPad ที่เชื่อมต่อเข้าไปในแอปรูปภาพ ตัวจับภาพ หรือ PC สื่ออาจถูกแปลงเป็น JPEG หรือ H.264 หากคุณไม่ต้องการให้ถูกแปลง ให้ไปที่การตั้งค่า > แอป > รูปภาพ บนอุปกรณ์ของคุณ จากนั้นเลื่อนลงแล้วแตะเก็บต้นฉบับ