หากเมล iCloud ไม่ทำงาน

คุณสามารถใช้เมล iCloud ในแอปเมลบน iPhone, iPad หรือ Mac หรือบน iCloud.com ได้ หากคุณไม่สามารถเข้าใช้งานอีเมลหรือไม่สามารถส่งและรับข้อความด้วยที่อยู่อีเมล @icloud.com ได้ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

• สิ่งที่ต้องตรวจสอบเป็นลำดับแรก

• หากคุณไม่สามารถส่งหรือรับเมลบน iPhone หรือ iPad ได้

• หากคุณไม่สามารถเข้าใช้งานเมล iCloud ที่ iCloud.com

• หากคุณไม่สามารถส่งหรือรับเมลจากแอปเมลบน Mac ได้

• ดูข้อมูลช่วยเหลือเพิ่มเติม

สิ่งที่ต้องตรวจสอบเป็นลำดับแรก

1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ และตรวจสอบสถานะระบบของเมล iCloud หากเมล iCloud ไม่พร้อมใช้งาน ให้ลองอีกครั้งในภายหลัง

2. ตรวจสอบว่าคุณเปิดใช้งานเมล iCloud แล้ว ดังนี้

   • บน iPhone หรือ iPad ให้เปิดการตั้งค่า แล้วแตะชื่อของคุณ แตะ iCloud จากนั้นแตะเมลใต้บันทึกไปยัง iCloud หรือแอปที่ใช้ iCloud ตรวจสอบว่าแอปเมลเปิดอยู่

   • บน Mac ของคุณ ให้เปิดแอปเมล แล้วเลือกเมล > การตั้งค่า คลิกบัญชี จากนั้นเลือกบัญชี iCloud ของคุณในแถบด้านข้าง ภายใต้ข้อมูลบัญชี ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบัญชีเปิดใช้งานอยู่และสถานะเป็นสถานะออนไลน์

   • บนพีซีที่มี iCloud สำหรับ Windows: ดูสิ่งที่ควรทําหากคุณต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับ Outlook

3. ตรวจสอบว่าคุณยังใช้งานไม่เกินขีดจำกัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud หากคุณใช้งานเกินขีดจำกัดพื้นที่เก็บข้อมูล iCloud ให้ดูวิธีเพิ่มพื้นที่ว่างมากขึ้นใน iCloud

4. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุดบนอุปกรณ์

หากคุณไม่สามารถส่งหรือรับเมลบน iPhone หรือ iPad ได้

1. ตรวจสอบสถานะระบบของเมล iCloud และการตั้งค่าอุปกรณ์ของคุณ

2. หากต้องการดูว่าคุณสามารถรับเมลสําหรับอีเมล iCloud ของคุณบน iCloud.com ได้หรือไม่ โปรดไปที่ iCloud.com/mail

3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการผลักข้อมูลใหม่ไปยังอุปกรณ์โดยอัตโนมัติ ใน iOS 18 หรือใหม่กว่า ให้แตะการตั้งค่า > แอป > เมล > บัญชี > ดึงข้อมูลใหม่ จากนั้นเปิดใช้งานผลักข้อมูล ใน iOS 17 หรือก่อนหน้า ให้แตะการตั้งค่า > เมล > บัญชี > ดึงข้อมูลใหม่ จากนั้นเปิดใช้งานผลักข้อมูล

   • ส่งอีเมลไปที่บัญชีของคุณเพื่อดูว่าการผลักข้อมูลทำงานหรือไม่

   • ในดึงข้อมูลใหม่ ให้แตะบัญชี iCloud ของคุณ แล้วเปิดใช้งานผลักข้อมูล คุณสามารถใช้ผลักข้อมูลได้กับบัญชีเดียวต่อครั้งเท่านั้น

4. ปิดอุปกรณ์แล้วเปิดใหม่อีกครั้ง

5. หากคุณยังไม่สามารถส่งหรือรับเมลได้ ให้ไปที่การตั้งค่า แล้วแตะชื่อของคุณ แตะ iCloud เลือกเมล iCloud และปิด "ใช้บน [อุปกรณ์] นี้" จากนั้นปิด "ดึงข้อมูลใหม่" โดยใช้คําแนะนําในขั้นตอนที่ 3 รีสตาร์ทอุปกรณ์ของคุณ จากนั้นเปิดการตั้งค่าเหล่านี้อีกครั้ง

หากคุณไม่สามารถเข้าใช้งานเมล iCloud ที่ iCloud.com

1. ตรวจสอบสถานะระบบของเมล iCloud และการตั้งค่าอุปกรณ์ของคุณ

2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเบราว์เซอร์ของคุณอัปเดตแล้ว หากคุณใช้ Safari ให้อัปเดต Safari เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด

3. ล้างแคชของเบราเซอร์

   • บน Mac ของคุณ ให้เปิด Safari แล้วเลือก Safari > การตั้งค่า คลิกแท็บขั้นสูง เลือก "แสดงคุณสมบัติสําหรับนักพัฒนาเว็บ" จากนั้นปิดการตั้งค่า คลิกเมนูพัฒนา แล้วเลือก "ล้างแคช"

   • ดูวิธีล้างแคชของเบราว์เซอร์บน iPhone หรือ iPad

   • หากคุณใช้เบราเซอร์อื่น ให้ตรวจสอบเมนูวิธีใช้เพื่อดูขั้นตอน

4. หากคุณสามารถเข้าถึงเมล iCloud การกำหนดค่าอินเทอร์เน็ตบางอย่างจะป้องกันการเข้าใช้งานบางเว็บไซต์หรือบริการบางอย่างโดยเจตนาหรือไม่ได้เจตนา อย่างเช่น เมล iCloud

หากคุณไม่สามารถส่งหรือรับเมลจากแอปเมลบน Mac ได้

หากคุณไม่สามารถส่งข้อความ มีการแนบไฟล์ขนาดใหญ่ หรือผู้รับไม่ได้รับข้อความของคุณ ให้ตรวจสอบสถานะระบบของเมล iCloud และการตั้งค่าอุปกรณ์ของคุณ จากนั้นทำตามขั้นตอนสำหรับปัญหาของคุณ

หากคุณได้รับการแจ้ง เมื่อคุณส่งข้อความจากที่อยู่อีเมล @icloud.com ของคุณโดยใช้เมลบน Mac

หากคุณเห็นการเตือนที่แจ้งว่า “ข้อความนี้ส่งไม่ได้ และจะยังคงอยู่ในกล่องข้อความขาออกของคุณจนกว่าจะสามารถส่งได้” ให้ตรวจสอบว่า iCloud เป็นบัญชีเมลขาออกของคุณ

1. เปิดแอปเมล แล้วเลือกเมล > การตั้งค่า

2. คลิกแท็บบัญชี

3. เลือกบัญชีอีเมล iCloud ของคุณ

4. คลิกแท็บการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ หาก iCloud ไม่อยู่ในรายการบัญชีเมลขาออก ให้เลือก iCloud หากคุณเลือกแก้ไขรายการเซิร์ฟเวอร์ SMTP คุณจะไม่เห็นบัญชี iCloud ของคุณในรายการเป็นตัวเลือก

หากคุณแนบไฟล์ขนาดใหญ่

ไฟล์แนบข้อความต้องไม่เกินขนาดสูงสุดที่ผู้ให้บริการอีเมลของคุณหรือผู้ให้บริการอีเมลของผู้รับอนุญาตให้ใช้ได้ ขนาดสูงสุดจะแตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการ ลองใช้ Mail Drop, การบีบอัดไฟล์ก่อนส่ง หรือใช้ AirDrop หากผู้รับอยู่ใกล้ๆ

หากผู้รับไม่ได้รับข้อความของคุณ

1. หากมีข้อความ "ที่อยู่ที่ไม่รู้จัก" หรือ "เมลไม่ถูกส่งถูกตีกลับ" ปรากฏขึ้นในกล่องข้อความขาเข้าของคุณหลังจากคุณส่งข้อความไปแล้ว ให้ไปที่กล่องเมลส่งแล้ว และตรวจสอบให้แน่ใจว่าที่อยู่อีเมลของผู้รับที่ถูกต้อง

2. หากคุณใช้เมลใน macOS หรือเข้าใช้งานเมล iCloud โดยใช้ Safari หรือเว็บเบราว์เซอร์ที่รองรับอื่นๆ ให้ตรวจสอบกล่องเมลฉบับร่าง ส่งแล้ว และกล่องออก ดังนี้

   • หากคุณเห็นสำเนาข้อความที่ยังไม่ได้ส่งในฉบับร่าง ให้ลองส่งอีกครั้ง

   • หากคุณเห็นข้อความในกล่องขาออกของคุณ ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตแล้วและใช้ขั้นตอนด้านบนเพื่อเลือก iCloud เป็นบัญชีอีเมลขาออก*

3. ขอให้ผู้รับตรวจสอบโฟลเดอร์เมลขยะหรือกล่องเมลของตน

4. หากผู้รับยังคงไม่ได้รับข้อความของคุณ แต่ข้อความถูกส่งไปแล้วโดยไม่มีการแจ้งใดๆ หรือมีข้อความ "เมลไม่ถูกส่ง" แสดงว่าข้อความของคุณอาจถูกปิดกั้นหรือถูกกรองโดยเซิร์ฟเวอร์เมล iCloud หรือเซิร์ฟเวอร์เมลของผู้รับ คุณสามารถขอให้ผู้รับติดต่อผู้ดูแลระบบอีเมลของตน หรือติดต่อฝ่ายบริการช่วยเหลือของ Apple เพื่อขอความช่วยเหลือ

หากคุณรับข้อความได้ แต่ส่งไม่ได้

ISP ของคุณอาจบล็อคโปรโตคอลที่ใช้ในการส่งอีเมล (SMTP) ข้ามเครือข่ายของตน ติดต่อผู้ให้บริการของคุณและสอบถามเกี่ยวกับการรับส่งข้อมูล SMTP ข้ามเครือข่ายไปยังบริการภายนอก เช่น iCloud หากผู้ให้บริการของคุณบล็อคการรับส่งข้อมูล SMTP โปรดสอบถามว่าคุณจะขอรับการยกเว้นจากการบล็อค SMTP ได้อย่างไร

หากคุณไม่สามารถรับเมลในแอป เมล บน Mac ของคุณ

ดูสิ่งที่ควรตรวจสอบหากคุณไม่สามารถรับเมลบน Mac ของคุณ

ดูข้อมูลช่วยเหลือเพิ่มเติม

หากคุณลองทำตามขั้นตอนสำหรับปัญหาของคุณแล้วและยังต้องการความช่วยเหลือ ให้ติดต่อฝ่ายบริการช่วยเหลือของ Apple